และแล้วเป้าหมายในการมาอังกฤษครั้งนี้กำลังจะเป็นจริง??? อ้าว สรุปไม่ได้มาเที่ยว???
จากเอนทรีที่แล้วๆ สรุปว่า แผนการเที่ยว Cotswold/Oxford เป็นอันล่มสลาย เพราะผู้ชายทำลายชีวิตฮะ กลายเป็นว่าเรากับนส.ง ตัดสินใจจะออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อตีรถกลับเข้าลอนดอน ว่าจะจับรถเมล์สายเช้าเพื่อไปให้ทันรถไฟ แต่เราก็ถูกสกัดกั้นด้วยสิ่งนี้
Full breakfast English. มันแต่อร่อย :v คือเยอะมากจนใช้เวลากินนานกว่าที่คิด พอเสร็จแล้วรีบออกจนเจ้าของ B&B ตกใจ 555 อีกรุ๊ปนี้ประหลาดๆ ตั้งแต่ตอน check in แล้ว พอลากกระเป๋ามาถึงป้ายรถเมล์ ซึ่งปรากฏว่าไม่ทัน และน้องๆ ทั้งสามก็ตามมาทันซะงั้น สรุปว่าเดี๋ยวไปแยกกันที่ Oxford แล้วกัน พอไปถึงสถานีก็ไม่ทันรถไฟอีก
ณ จุดนั้น ความงกเข้าสิง เพราะว่า เราถือบัตรกลับจาก Oxford ไปลอนดอนแล้ว เลยกะเนียนนั่งยาวไปเลย พอรถมาก็พยายามนั่งกระจายหนีนายตั๋ว แต่นะ ทำชั่วไม่ขึ้น จากที่ลากกระเป๋าไปนั่งด้านหน้า ก็จ๊ะเอ๋นายตั๋วเลย แล้วก็กะเนียนหลับ (คือเคยได้ผลมาทีไง) แต่นายตั๋วก็ปลุกมาให้จ่ายตังค์ โดนไปอีก 9 ปอนด์ >0< เค้าขอโทษนะนส. ง. เลยได้ตื่นเต้นเป็นพิเศษ
แต่ที่ฮา คือ กลุ่มน้องๆ ที่อยู่ืท้ายรถดันเจอนายตั๋วใจดีให้ผ่าน ไม่ต้องเสียตังค์ แต่เราเองที่ตื่นเต้นซะจนลืมไปว่า น้องๆ ไม่ได้ไปถึงลอนดอนกับเรา ยังไงมันต้องลงที่ Oxford ซึ่งเท่ากับว่า ยังไงมันก็ต้องมีตั๋วลง ไอ้ติ่งสองคนอย่างอิฉันก็ตันลืมให้ตั๋วไว้กับน้องๆ ตอนที่ลงที่ Oxford สรุปว่าเสียตังกันครบทุกคน =____=”
ถึงยังงั้นก็เหอะ ก็แอบลุ้นๆ เสียวๆ ตอนออกจากสถานี paddington อยู่ดี เพราะตั๋วที่ซื้อมันระบุเวลา แต่ก็ออกมาได้แบบไม่มีปัญหานะ กว่าจะถึงลอนดอนก็บ่ายแล้ว เลยต้องรีบเอาของไปเก็บแล้วพุ่งไปที่ Euston Sq. ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำ BBC Sherlock ตอนออกจากสถานีก็ทั้งตื่นเต้นทั้งงง เลยออกผิดประตูต้องเดินอ้อมถนนไป ดีนะที่เห็นฝูงชนฝั่งตรงข้าม เืกือบไปผิดทาง
ไปถึงสถานที่ถ่ายทำ Baker Street นี้ตื่นเต้นสุดๆ เลยอ่ะ คนมารอเพียบหลายร้อยเลยตอนนั้น
ทำไมแฟนเกิร์ลไม่ไปทำงาน?? ตอนแรกไปยืนออที่ฝั่งตรงข้าม แต่ยังเห็นคนเข้าออกร้าน Speedy’s Cafe เลยข้ามไปถ่ายรูป หน้าร้านติดป้ายไว้ว่าเปิดร้านถึง 3 โมง เลยเข้าไปในร้านนั่งกิน Hot Choc รอไปพลาง เดินดูรูปที่เบื้องหลังที่ถ่ายทำที่หน้าร้านไปพลาง
อาหารน่ากินมากกกก แต่ว่ายังอิ่มข้าวเช้าอยู่เลย ฮืออออออ
ระหว่างที่นั่งรอในร้านหันไปเจอ Sue Vertue Producer ของรายการด้วย ตกใจมาก เพราะหันไปเจอแบบไม่ตั้งตัวเลยจ้องเค้าแบบเสียมารยาทนิดๆ กรี๊ดกะนส.ง.ไปนิด จนถึงเวลา 3โมงที่ต้องออกจากร้าน พอออกมาเจอ Sue อีกรอบเลยเข้าไปทักได้คุยกันนิดนึง ป้าน่ารักมาก เลยรายงานตัวไปว่ามาจากเมืองไทย โดนแซวว่ามาอังกฤษเพื่อการณ์นี้เลยรึ ไอ้เราจะปฏิเสธก็ไม่เต็มปาก เพราะมาแบบหวังผลเผื่อฟลุ๊คอ่ะนะ เลยบอกว่าจะไปคาร์ดิฟพรุ่งนี้ ขอคำแนะนำเรื่องที่เที่ยวหน่อย ป้าถามกลับว่าเป็นแฟน Doctor Who ด้วยหรือเปล่า เลยยิ่งหัวเราะแฮะๆ แหม โดนจับได้ ป้าเลยบอกว่าให้ไป Doctor Who Exp. แต่นะติดน้องๆ ป้าก็ยังชวนต่อว่า Ditch them around Cardiff Center. GO!!! 5555 สนับสนุนงานสามียิ่งชีพมาก ว่าแล้วป้าก็ขอตัว
พวกเราสองคนเลยเดินไปตรงฝั่งตรงข้าม ได้ที่ไม่ดีนัก เพราะมาช้าเลยอยู่หลังคนบังเต็มเลย ตอนนั้นที่รอทีมงานก็เริ่มมาติดป้ายถนน เคลียร์ทางแล้ว
พอได้เวลาเริ่มถ่าย เรากะสาว ง. ก็เดินมาฝั่งตรงข้าม แถวหลังๆ เพราะมาช้าเห็น MARK หรือ Mycorft มาก็วี๊ดว๊ายกันเป็นระยะ พี่แกดูดีมากกกกก แต่งตัว causal แต่ก็โคตรดูดีเลย ขายาวๆ มองลอดเครนกล้องที่ตั้งไว้ด้านหน้าคาเฟ่ สักพักเจ้าหน้าที่ก็ขอให้ย้ายที่ เพราะต้องถ่ายมุมตรงข้ามคาเฟ่ โดยโยกให้แฟนๆ ไปด้านข้างๆ 221B หรือก็คือ 219 B เราสองคนก็ทำเป็นงงๆ ฟังไม่ออก เดินตามไปช้า เลยได้มาอยู่อยู่หน้าสุด
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เค้าจะปล่อยให้แฟนๆ มาอยู่ใกล้ขนาดนี้ มันใกล้มาจริงๆนะ คือห่างจากประตู 221B ไม่ถึง 5 เมตรเลย แล้วไม่มีอะไรมากั้นด้วย ตื่นเต้น
สักพัก รถจากัวร์สีดำก็วิ่งเข้ามาเทียบหน้าประตูคาเฟ่ วินาทีที่รอคอยมาถึงแล้ว การที่ได้เห็น Benedict ใส่ชุด Sherlock เต็มยศต่อหน้าต่อตานี้มันสุดจะบรรยายจริงๆ นะ คือแบบว่าไม่คิดว่าทริปนี้จังหวะจะดี จะโชคดีขนาดนี้ TAT สติแตกกะสาว ง. ไปเลย แฟนๆ ก็กรี๊ดกร๊าดร้องเรียกกันเสียงดังเลย แต่นะพี่ไม่หันมาทางหนูเลย พี่หันไปเซย์ฮัลโหลโบกมือกับแฟนๆ ด้านหลังหมดเลย หรือพี่คิดว่าฟากนี้เป็น Extra ประกอบฉากกัน แล้ว Martin ก็ตามมาไม่ห่างกันมาก แต่ที่ลำบากคือ พี่ตัวเล็กมาก มองแทบไม่เห็น ดีนะผมสีอ่อนเลยพอเห็นไม่งั้นการ์ดบังมิดเลย แต่ก็ยังได้เห็น Sass ของพี่เค้านะ เก๋าไม่มีใครเกินจริงๆ เลย XD กระเป๋าลูกแพร์ Paul Smith ใบนั้น เห็นแล้วอยากได้บ้าง
แฟนๆ ที่มารอส่วนใหญ่มารยาทดีมาก ไม่มีใครส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดหนวกหูรบกวนการถ่าย เซทฉากเสร็จสักพักก็เริ่มซ้อมถ่ายกัน โอยยยเห็นหยิกกะหมอตรงหน้านี้ฟินโคตรรรร แถมใส่หมวกล่ากวางด้วย โอยอะไรกัน ถ่ายรูประรัวราวกับคนบ้า เสียอย่างรำคาญคนจีนที่อยู่ด้านหน้า คือชีเบียดๆ แถๆ มาจนอยู่หน้าเราแล้วก็ถ่ายๆ ผุดๆโผล่ๆ เป็นปลาขาดน้ำตลอด จนอยากจะเอาเท้าไปเี่กี่ยวขาชีซะเหลืิอเกิน
ซ้อมถ่ายนานอยู่เหมือนกัน พอจะถ่ายจริงๆ สต๊าฟต้องมาขอให้แฟนถอยกลับไป เพราะว่ามันไปปิดทางเข้าบ้านชาวบ้านแถวนั้น ตอนแรกถ่ายมุมด้านหลังของ Sherlock John มาเจอนักข่าว หลังจากนั้นก็สลับมุมเป็นมาถ่ายด้านหน้าแทน ระหว่างที่มองดูพี่เบนพี่มาร์ตินรอตั้งกล้องก็อิ๊งอ๊างมากกกก ยิ้มกันน่ารักสุดๆเลย สักพัก เด็กๆจาก Oxford ก็ Line มาว่า จะตามมา
พอถ่ายซีนนี้เสร็จ ก็โดนโยกอีกหน คราวนี้ย้ายไปด้านขวา ฝั่งเดียวกับเต๊นท์ของสต๊าฟ ระหว่างที่โดนไล่ เรากับสาว ง. ก็ฟังภาษาไม่ค่อยรู้เรื่องอีกแล้ว ค่อยๆ เดินไปผ่านหน้า 221B พี่เบนกำลังยกกล้องถ่ายแฟนๆ ที่ำกำลังย้ายถิ่น สองเราก็โบกไม้โบกมือเป็นคนบ้า พร้อมๆ กับที่สต๊าฟมาไล่ๆ ให้กลับฝูง
ตอนแรกที่โดนย้ายมาฝั่งเต๊นท์สต๊าฟนี้อย่างเซ็งเพราะว่า นอกจากจะมองไม่เห็นเพราะมุมอับแล้ว มอนิเตอร์ก็ตั้งไว้พอดีทางอีก เห็นแว่บๆ แค่หัวหยิกๆ ต้องอาศัยช่องว่างแหวกอากาศระหว่างตัวสต๊าฟมองหาพี่เบนกับพี่มาร์ตินเอา
ระหว่างนั้นก็เห็นสต๊าฟที่ดูแลเรื่องเสื้อผ้ากับเมคอัพเดินเข้าเดินออก เป็นอาชีพที่น่าอิจฉาเสียเหลือเกิน ระหว่างเห็นแล้วเด็กๆ มากันแล้ว แหมมม อยู่แถวหน้าๆ ฝั่งตรงข้ามคาเฟ่เลย กรี๊ดอิจฉา เลยเดินไปหาซะหน่อย อีกอย่างฝนเริ่มตก กลัวพวกนั้นมาทรมานตัวเอง พอเดินกลับมาก็เจอพี่มาร์คกำลังแจกลายเซ็น เลยพุ่งไปขอบ้าง บอกไปว่ามาจากเมืองไทยเลย พี่เค้าก็สตั๊นท์เล็กๆ นะ เอา Casebook ให้เค้าเซ็น พอเดินกลับไปรั้วกั้นก็บอกสาว ง. ให้ไปขอลายเซ็นบ้าง
กลับมาเกาะรั้วใหม่อีกรอบ งวดนี้เจอป้าคนนึงมารอกับเพื่อนฮามากกกกก เป็นคนขี้โวยวายที่น่ารักอารมณ์ดีอ่ะ คือพอสต๊าฟมาชวนคุยก็แซวกันไปมา พอโดนบังก็โวยวาย คือไม่น่ารำคาญเลย เฮฮาไปกับป้า สักพักพี่มาร์ตก็กลับบ้าน ในฝูงแฟนที่รอ มีคนถามว่าใครรึ แหมมมม ถามไปได้ พอเพื่อนบอกว่าใคร ยังมีหน้าไปตะโกน “I love you” ใส่
ตอนนี้ฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว ซีนก็เปลี่ยนไปถ่ายพี่มาร์ตินเดินหน้าบ้านเดี่ยวๆ ไม่รู้พี่เบนหายไปไหน :v ฟ้าเริ่มมืด มองเห็นพี่มาร์ตินยากขึ้นทุกที เห็นเสื้อหนาวพี่แกทีไรอยากจะไปฉกมาซุกอุ่น
จากนั้นก็โดนโยกอีก ครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย มาอยู่ฝั่งเดียวกับเด็กๆ แต่เยื้องออกมาทางริมซ้ายแต่ยังคงแถวหน้าสุดถึงจะริมๆ
ระหว่างนั้นก็มีเจ๊จากอเมริกันชวนสต๊าฟคุยพร้อมกับเล่าว่าทำไม Sherlock ไปฉายที่อเมริกาแล้วไม่ค่อยฮิต
ช็อตนี้อยากตบตีพี่มาร์ตินมาก เพราะตอนนั้นทั้งมืดทั้งหนาว แฟนๆ อยากรอก็ตากฝนกันไปสิ พี่แกก็แค่มีเสื้อหนาอุ่น มีคนถือร่ม กับชาอุ่นๆ ที่ถืออวดแฟนๆ ก็เท่านั้นเอง =A=
เป็นฉากที่พี่มาร์ตินทำร้าย :v แสงสวยอ่ะ ตอนนี้มืดแล้ว ไฟจับสวยเลย สักสองทุ่มๆ กว่าฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ พวกเด็กๆ ก็เลยกลับกันไปก่อน สองสาวหน้ามึนก็ยังรอต่อไปฮะ ไม่มีย่อท้อ (คือ จริงๆ ขาแข็งขยับไม่ได้มากกว่า) เห็นแสงไฟจากประตู 221B มันดูอบอุ่นเหลือเกิน เมื่อ 6 ชม. ที่แล้ว ฉันยังได้นั่งดื่มชอคโกแลตร้อนในนั้นแท้ๆ เห็นแว่บๆ เหมือนพี่เบนอยู่ในนั้นด้วยเหอะ
ระหว่างที่รอมันก็ไม่ได้หิวน้ำหิวข้าวอะไรมากนะ ต้องขอบคุณอาหารเช้าชุดใหญ่ของเฮเลนจริงๆ 12 ชม. นี้อยู่ท้องมาก แต่เพื่อน ง. เธอมีไอเท็มลับค่ะ มีิทินนี่ชอคโกซ่อนอยู่ ขณะที่พวกเรากำลังเสริมพลังเอาทินนี่มากินกันคำสุดท้าย เราเป็นคนป้อน เงาะถือร่ม ก็เห็นพี่เบนเดินมาทางนี้ ทินนี่ชิ้นนั้นก็ถูกยัดเข้าปากเพื่อนทันที ด้วยสติที่มาจากไหนไม่รู้ก็ยกมืองับถุงมือออกทันที ที่สำคัญพี่เบนเดินมาทางพวกเราเป็นกลุ่มแรกด้วย ดีใจอ่ะ ระหว่างทำงานแท้ๆ ยังใจดีออกมาทักทายแฟนๆ อยากรู้จริงๆ ว่าถ้าฝนไม่ตกนี้จะยอมมาไหม พี่ชายยยย ฉันหนาว
พี่เบนมาพร้อมกับร่มคันโต ถึงจะมืด แต่ก็เห็นหน้าชัดเจน ยื่นมือพุ่งไปจับเลย สัมผัสมือพี่เบนนี้เข้มแข็งมาก คือจับมือบีบเต็มแรงเลย >o< เป็นคนหนักแน่นนะคะพี่ แล้วยังดุแฟนๆ ด้วย”Your guy are bonker!!” มาทำอะไรหนาวๆ แบบนี้ แหม ถ้าไม่บ้าก็ไม่มาทำอะไรอย่างงี้หรอก แล้วก็ขอบคุณแฟนที่มาสนับสนุน แต่วันนี้คงให้ถ่ายรูปกับแจกลายเซ็นไม่ได้ระหว่างที่บอกว่ามาจากเมืองไทย แฟนๆ ด้านหลังก็ดันมา จนพี่เค้าต้องหันไปบอกว่า ถ้าดันมาจะเดินกลับไปทันทีนะ บร้าที่สุด จากนั้นพี่เบนก็ค่อยๆ เลื่อนไปด้านขวาัทักทายแฟนๆ
โอยยยยย ตอนนั้นหายหนาวหายสั่นเลย แบบตรงหน้าชัดๆ เลย แถมได้สัมผัสได้พูดคุยด้วย นี้มันสุดยอดจริงๆ
ชิชะพี่มาร์ตินนี้ไม่่มีเลย แต่คงหมดคิวถ่ายไปแล้ว แต่แหม เจ๊อแมนด้ามาถ่ายด้วย ทำไมไม่รอกลับพร้อมภรรยาน้า
สักพักอแมนด้าก็มาทักทายแฟนๆ บ้าง โคตรเฟรนลี่น่ารักสุด เล่นมุข Big Ben Tiny Ben กับแฟนๆ อีก พอถามว่าสามีมาทำอะไรอย่างงี้บ้างไหม แฟนๆ ก็ตอบว่าไม่ก็ขอโทษแฟนๆ แทนสามีด้วย แล้วก็กลับไปถ่ายชอตหยุดมอเตอร์ไซด์ต่อ
ระหว่างนั้นน้อง G ที่เพิ่งเลิกงานก็เพิ่งมาสมทบมาช้าไปหน่อยเดียวเองเสียดายแทน แต่จุดนี้เริ่มรำคาญแฟนๆ ด้านหลังที่แม่งวิเคราะห์วิจารณ์และพูดแต่คำว่า Too Slow อยู่นั้นแหละ ระหว่างนั้นก็มีคนที่อาศัยอยู่แถวนั้นเดินผ่านฉากไปมา ทำให้ต้องเซทกล้องใหม่หลายครั้ง แต่ที่น่าเกลียดสุดคือ แฟนชาวเอเชีย ที่แกล้งจะเดินผ่านไปมา คือ ณ จุดนั้นหนาวมากกกก ฝนตกแรงมาก แถมไอ้พวกด้านหลังก็ด่าไม่ให้กางร่ม วินาทีนั้นอยากให้เลิกกล้องเป็นทีุ่สุด จะกลับก่อนก็ใช่ที่ รอมาขนาดนี้ ถ้าไม่ยกกล้องออกก็ไม่กลับล่ะวะ
ซีนสุดท้าย ถ่ายด้านหน้า ฝูงแฟนๆ ก็โดนโยกเป็นครั้งสุดท้าย คราวนี้กลับไปมุมเดิมที่หน้าบ้าน 219B แต่ไกลออกมาบนถนนหลังเต๊นท์กล้อง เห็นหน้าพีี่แว่บโดยฝนโดยแสงส้มสาดเป็นระยะๆ ตอนนั้นเข่าสั่นงั่กๆ แล้ว ฟันก็สั่นกึกๆ เลย หยุดไม่ได้ ฝนก็ไม่หยุด เห็นสต๊าฟยืนตากฝนแล้วก็นับถือนะ คือถ้าเป็นประเทศอื่นมันคงไม่ทรหดกับฝนเท่าประเทศนี้หรอกนะ แต่ที่ปวดใจคือ ดันหันไปเห็นสต๊าฟที่เสิรฟ ชา กาแฟ ทำถ้วยหกไปแก้วนึง วินาทีอยากพุ่งไปตีหัวมาก คือเห็นไอร้อนบนพื้นเลย ถ้าจะทำหก ส่งมาให้ฉันก็ด้ายยย ฉันหนาวววววว
ที่ถ่ายนานนี้มาจากสาเหตุว่าต้องให้รถไปวนกลับมา + คนที่เข้าเดินกลับบ้านกัน เทคกันบ่อยมากกก มีทั้งคนออกมาวิ่ง!!! (เมริงมาวิ่งออกกำลังกายตอนฝนตกงี้เนี่ยนะ!!) คุณแม่ลากรถเข็นเด็ก ตอนนี้แสงน้อยไฟน้อย ถ่ายยากเหลือเกินเลยถ่ายเอาบรรยากาศแทน ไฟสวยดี ตอนนั้นนิ้วแข็งแล้ว แต่ก็ยังถ่าย หันไปเห็น ง. กะ ย. ยืนสั่นเป็นลูกนกตกน้ำก็ยังเอาให้ครบ
ตอนที่ได้ยินเสียงปิดกองนี้เป็นอะไรที่ฟินมาก คือจบภารกิจซะที ถ้าถ่ายทำต่ออีกชม.อาจจะเป็นไข้ตายที่โน่นก็ได้นะ จากนั้นก็วิ่งลง Tube ไป ต้องขอถอดเสื้อนอกกับถุงมือก่อนเลยเพราะเปียกจนไม่รู้จะเปียกยังไงแล้ว แต่มันก็เป็นบรรยากาศที่สุดตรีนดีนะ ไปรอตั้งกะ 2โมงครึ่งถึง 5ทุ่มครึ่งเน่ีี่ีย
กลับห้องอาบน้ำ ตากเสื้อให้แห้งก่อนไป Cardiff!!!